เทคนิคผ่อนบ้านหมดไว จนมีเงินเหลือได้ซื้อรถใหม่พร้อมรับเงินก้อนคืน

กลับมาพบกันอีกครั้งวันนี้ขอเอาใจคนที่กำลังจะทำการกู้ซื้อบ้าน โดยทำการผ่อนบ้านรายเดือนกับธนาคาร สำหรับท่านที่ทำการผ่อนจ่ายนั้น ส่วนใหญ่เราจะชำระดอกเบี้ยเป็นหลัก และส่วนที่เหลือจึงค่อยชำระเงินต้น ว่ากันตามตรงก็คือถ้าเราทำการจ่ายครบกำหนดดอกเบี้ยอาจจะสูงถึง 70% ของวงเงินกู้เลยทีเดียวค่ะ ดังนั้่นวันนี้เราเลยอยากจะมาแชร์ เทคนิคผ่อนบ้านหมดไว จนมีเงินเหลือไปซื้อรถใหม่ พร้อมแนวทางรับเงินก้อนคืนว่ามีแนวทางแล้วขั้นตอนอย่างไร เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลย…
เทคนิคผ่อนบ้านหมดไว จนมีเงินเหลือได้ซื้อรถใหม่หนึ่งคัน
อย่างที่หลายๆท่านทราบว่าวิธีการหนึ่งที่จะช่วยทำให้ภาระดอกเบี้ยลดลงและทำให้เราปิดหนี้ได้เร็วมากขึ้นนั้นก็คือ การโปะ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าการชำระคืนในแต่เดือนให้มากกว่าเงินงวดปกติ หรือกรณีนี้ คือ มากกว่า 6,000 บาทต่อเดือน เพราะเงินที่จ่ายหรือโปะเพิ่มเข้าไปนั้นจะไปหักเงินต้น 100% ก็จะทำให้ยอดหนี้เราลดลงเร็วมากขึ้น แล้วก็จะทำให้เราโดนคิดดอกเบี้ยน้อยลง ง่าย ๆ ว่าถ้าเราจ่ายเป็น 2 เท่าจากยอดปกติที่เราคุยกับธนาคารไว้จะช่วยทำให้เราผ่อนบ้านหมดภาย 10 ปี จากเดิมที่วางเอาไว้ที่ 30 ปี ซึ่งเร็วขึ้น 20 ปีเลยทีเดียว เพราะโดยส่วนมากแล้วดอกเบี้ยบ้านจะคิดแบบลดต้นลดดอก โดยดอกเบี้ยที่ต้องชำระในแต่ละเดือนจะคำนวณจากเงินต้นคงเหลือของเดือนนั้นๆ ตามตัวอย่างด้านล่าง
- ถ้าเรากู้เงินซื้อบ้าน 3,000,000 บาท และตามที่ตกลงกับธนาคารให้ผ่อนชำระเดือนละ 20,000 บาท เป็นระยะเวลา 30 ปี อัตราดอกเบี้ยปีแรก 3.00% ต่อปี หลังจากนั้น MRR-1 (สมมุติให้ 1 เดือนเท่ากับ 30 วัน)
- ในเดือนแรกจะเสียดอกเบี้ยอยู่ที่ [3,000,000X 3%] X [30/365] = 7,397.26 บาท
- เมื่อจ่ายชำระค่าผ่อน 20,000 บาท จะถูกนำไปชำระดอกเบี้ยก่อน 3,698.63 บาท
- ส่วนที่เหลือ 20,000 – 7,397.26 = 12,602.74 บาท ค่อยนำไปชำระเงินต้น
- เท่ากับว่าเงินต้นคงเหลือจะอยู่ที่ 3,000,000 – 12,602.74 = 2,987,397.26 บาท และนำเงินต้นคงเหลือไปใช้คำนวณดอกเบี้ยในเดือนถัดไป ซึ่งเท่ากับ [2,987,397.26X3%] X [30/365] = 7,366.18 บาท
จากตัวอย่างด้านบนจะเห็นได้ว่าถ้าอัตราดอกเบี้ยเท่ากัน ในเดือนถัดไปดอกเบี้ยจะลดลงตามเงินต้นที่ลดลง ดังนั้นการผ่อนชำระหนี้ในแต่ละเดือนด้วยจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นก็จะยิ่งช่วยทำให้เงินต้นลดลงเร็วขึ้นและก็ยังช่วยให้ดอกเบี้ยเงินจ่ายลดลงด้วยเช่นกัน
ทริคเริ่มต้นง่ายๆคือจ่ายเกินทุกงวด
เงินในแต่ละงวดที่คุณจะต้องจ่ายนั้นประกอบไปด้วย เงินต้น + ดอกเบี้ย ซึ่งจะหนักไปที่ดอกเบี้ยเสียส่วนมากแต่ถ้าคุณจ่ายเงินเกินกว่าจำนวนที่ทางธนาคารกำหนดให้คุณจ่ายมาในแต่ละเดือน เงินส่วนที่เกินมานั้นก็จะไปหักกับเงินต้นเดิม ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถผ่อนได้หมดไวขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในแต่ละงวดคุณต้องจ่ายค่าผ่อนบ้านให้กับธนาคาร 10,000 บาทเป็นระยะเวลา 30 ปี แต่ถ้าหากคุณโปะเพิ่มไปอีกเป็นจ่ายเดือนละ 20,000 บาท จะช่วยลดระยะเวลาในการผ่อนจาก 30 ปีเหลือเพียง 9-10 ปีเท่านั้น แต่ถ้าหากไม่ได้มีเงินโปะทีละมากๆ ทุกเดือน คุณอาจเลือกโปะเพิ่มทีละน้อยๆ ประมาณ 10 – 20% ก็ช่วยลดเงินต้นลงไปได้มากเช่นกัน อีกทั้งยังไม่กระทบกับภาระทางการเงินของคุณอีกด้วย
มีเงินเหลือได้ซื้อรถใหม่หนึ่งคันแค่ ผ่อนเพิ่มเดือนละ 3,000 บาท
จากตัวอย่างจะพบว่าหากเลือกผ่อนชำระเดือนละ 20,000 บาท ตามที่ธนาคารกำหนดไว้ไปเรื่อยๆ จนครบกำหนด 30ปี ดอกเบี้ยจ่ายทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 1,700,0000.00 บาท แต่หากผ่อนเพิ่มแค่เดือนละ 3,000 บาท จากผ่อนเดือนละ 20,000 บาท เป็น 23,000 บาท ดอกเบี้ยจ่ายทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 1,300,000.00 บาท เมื่อเปรียบเทียบดอกเบี้ยจ่ายแล้ว การผ่อนเพิ่มเดือนละ 3,000 บาท จะช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ยได้ถึง 400,000 บาท และช่วยร่นระยะเวลาในการผ่อนบ้านให้เร็วขึ้นถึงประมาณ 5-7 ปี เลยทีเดียวค่ะ และอย่าลืมนะคะว่านอกจากที่กล่าวมานี้ถ้าเราได้รับเงินก้อนหรือเงินโบนัสและค่าคอมมิชชั่นต่างๆ ก็ยังสามารถที่จะแบ่งเงินบางส่วนนี้ไปโปะบ้านด้วยนะเพราะว่าจะทำให้ประหยัดดอกเบี้ยเงินจ่ายได้เหมือนกันอีกทั้งยังหมดภาระหนี้สินเร็วขึ้นเป็นเท่าตัวนั้นเอง
หากมีโอกาศรีบโปะเพิ่มช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ
โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีแรกของการผ่อนบ้าน ธนาคารจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำตามเงื่อนไขหรือโปรโมชั่นของทางธนาคาร หากในช่วงนั้นคุณพยายามโปะเงินเพิ่ม จะทำให้เงินต้นลดลงไปได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ สินเชื่อบ้านนั้นเป็นรูปแบบการกู้แบบลดต้นลดดอก กาารโปะเงินเพิ่มเพื่อลดเงินต้น จะทำให้ดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายในช่วงหลังจากนี้ลดลงไปอีกด้วย โดยอาจเพิ่มเป็นเงินจำนวนน้อยๆ ในแต่ละเดือนตามกำลังทรัพย์ที่ไหวก่อน แล้วค่อยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่พยายามโปะเพิ่มให้ได้มากที่สุดในช่วงนี้ เพื่อที่ตอนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วจะได้ไม่ลำบาก
ผ่อนบ้านหมดไว อาจได้รับเงินก้อนคืน
สำหรับกรณีหากท่านถูกบังคับให้กู้ซื้อบ้านพร้อมทำประกัน อย่าง กู้ซื้อบ้าน 30 ปี แต่ผ่อนบ้านหมดไวแค่ 17 ปี ก็เรียบร้อยแล้ว สามารถติดต่อขอเคลมเงินประกันได้ทันที ให้เหตุผลว่าเหลืออีกตั้ง 13 ปีที่ไม่ได้คุ้มครองก็เลยอยากขอเคลมเป็นเงินคืนใน 13 ปีคุ้มครองที่เหลือ อย่างไรก็ตามเงินขอเคลมมานั้นอาจได้จำนวนมาก หรือบางธนาคารอาจยื่นข้อเสนอคุ้มครองต่อให้แต่ไม่คืนเงินประกัน ก็ลองชั่งน้ำหนักดูว่าแบบไหนดีกว่า ตอบโจทย์กว่ากัน
สำหรับวิธีการทั้งหมดที่ได้กล่าวมา เพียงแค่คุณวางแผนให้ดี พิจารณาสภาพคล่องทางการเงินอย่างรอบคอบ ประกอบกับการมีวินัยในการผ่อนชำระให้ตรงเวลา เท่านี้การเป็นเจ้าของบ้านในฝันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ก่อนจากกันทางเว็บไซต์ moneydever.com ยังมีเรื่องราวอื่นๆอีกมากมายอย่างลืมเข้ามาอ่านกันนะ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้า