เช็กสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคมปี 66 สำหรับ ม.33-ม.39

เช็กสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคมปี-66

มา เช็กสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคมปี 66 สำหรับผู้ประกันตน ม.33-ม.39 โดยทางสำนักงานประกันสังคมเปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 แจ้งขอเปลี่ยนสถานพยาบาลประจำปี ด้วยเหตุต่างๆทั้งไม่ได้รับความสะดวกในไปใช้บริการที่สถานพยาบาลที่เลือกไว้แต่แรก หรือมีเหตุที่จะต้องย้ายที่พักอาศัยหรือย้ายสถานที่ทำงานประจำเป็นต้น

เช็กสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคมปี 2566 สำหรับ ม.33-ม.39

เช็กสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคมปี-66

สำหรับตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลประกันสังคม ผู้ประกันตนสามารถสอบถามจากนายจ้าง/เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือสายด่วน 1506 โดยสถานพยาบาลที่ผู้ประกันตนขอเปลี่ยนจะต้องเป็นสถานพยาบาลซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดที่ท่านประจำทำงาน หรือพักอาศัยในปัจจุบัน หรือจังหวัดรอยต่อของจังหวัดดังกล่าวและมีจำนวนผู้ประกันตนไม่เกินตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด โดยการตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล ได้ที่ SSO Application (SSO Connect) / โทร. 1506 /สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทุกแห่ง สถานพยาบาลในโครงการประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ เครื่อง Smart Kiosk ของกระทรวงมหาดไทย และ Add เพื่อน Line @ssothai หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคม หรือที่สายด่วน 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

รายชื่อสถานพยาบาลประกันสังคม ประจำปี พ.ศ. 2566 เขต กรุงเทพมหานครฯ

  • สถานพยาบาลรพ.ตากสิน*
  • สถานพยาบาลรพ.ภูมิพลอดุลยเดช
  • สถานพยาบาลรพ.เวชการุณย์รัศมิ์
  • สถานพยาบาลรพ.ลาดกระบัง
  • สถานพยาบาลคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล
  • สถานพยาบาลรพ.ตำรวจ
  • สถานพยาบาลรพ.ราชวิถี (สธ)
  • สถานพยาบาลรพ.ศิริราช กรุงเทพมหานคร
  • สถานพยาบาลรพ.กลาง
  • สถานพยาบาลทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
  • สถานพยาบาลรพ.รามาธิบดี
  • สถานพยาบาลรพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า*
  • สถานพยาบาลรพ.จุฬาลงกรณ์
  • สถานพยาบาลรพ.นพรัตนราชธานี (สธ)
  • สถานพยาบาลรพ.ราชพิพัฒน์*
  • สถานพยาบาลรพ.สิรินธร*
  • สถานพยาบาลรพ.เจริญกรุงประชารักษ์*
  • สถานพยาบาลรพ.พระมงกุฎเกล้า
  • สถานพยาบาลรพ.เลิดสิน (สธ)*
  • สถานพยาบาลรพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ*

สถานพยาบาลของเอกชนเขต กรุงเทพมหานครฯ

  • รพ.บางปะกอก 8 โรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่*
  • รพ.เพชรเวชโรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่
  • รพ.ซีจีเอช สายไหม โรงพยาบาล
  • รพ.ทั่วไปขนาดใหญ่กล้วยน้ำไท*
  • รพ.บางไผ่โรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่*
  • รพ.เกษมราษฎร์ บางแคโรงพยาบาล
  • รพ.บางมดโรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่*
  • รพ.มเหสักข์โรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่
  • รพ.สุขสวัสดิ์อินเตอร์โรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่*
  • รพ.ทั่วไปขนาดใหญ่ บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์*
  • รพ.มงกุฎวัฒนะ
  • รพ.หัวเฉียวโรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่*
  • รพ.ทั่วไปขนาดใหญ่เกษมราษฎร์ประชาชื่น
  • รพ.ทั่วไปขนาดใหญ่ เปาโล โชคชัย 4
  • รพ.มิชชั่นโรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่
  • รพ.ไอเอ็มเอช ธนบุรี โรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่
  • รพ.เกษมราษฎร์ รามค าแหงโรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่
  • รพ.ทั่วไปขนาดใหญ่เปาโล เกษตร
  • รพ.ทั่วไปขนาดใหญ่ราษฎร์บูรณะ
  • รพ.ทั่วไปขนาดใหญ่ พีเอ็มจี*
  • รพ.ทั่วไปขนาดใหญ่ลาดพร้าว
  • นวมินทร์ 9 โรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่*
  • รพ.พญาไท นวมินทร์ โรงพยาบาลทั่วไป ขนาดใหญ่
  • วิภาราม โรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่*
  • รพ.ทั่วไปขนาดใหญ่บางนา 1*
  • รพ.ทั่วไปขนาดใหญ่มิตรประชา*
  • รพ.ทั่วไปขนาดใหญ่ศิครินทร์*
  • รพ.ทั่วไปขนาดใหญ่แพทย์ปัญญา ทั่วไปขนาดใหญ่

รายชื่อสถานพยาบาลประกันสังคม ประจำปี พ.ศ. 2566 ต่างจังหวัด

เช็กสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคมปี 66

เช็กสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคมปี 66

เช็กสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคมปี 66

รายชื่อสถานพยาบาลประกันสังคม แบบละเอียดประจำปี 2566 คลิก

ขั้นตอนการการเปลี่ยนสถานพยาบาล

สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่ต้องการ เปลี่ยนสถานพยาบาล ท่านสามารถเริ่มเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 โดยสามารถเลือกเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ใน 4 ช่องทางคือ

เช็กสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคมปี 66

  1. ยื่นแบบการเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ สปส. 9-02 ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ
  2. หรือทำรายการผ่านเว็บไซด์ www.sso.go.th
  3. หรือทำรายการผ่าน Application SSO Connect
  4. หรือทำรายการผ่าน Line official sso โดยเพิ่มเพื่อน @ssothai

กรณีการเปลี่ยนสถานพยาบาลผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นแล้ว ไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคมอีก เมื่อมีการเปลี่ยนสถานพยาบาล ผู้ประกันตนมาตรา 33 ซึ่งทำงานกับนายจ้าง สำนักงานประกันสังคมจะแจ้งผลการเลือกสถานพยาบาลผ่านนายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 39 จะแจ้งเป็นหนังสือ หรือ SMS เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมกล่าวต่อว่า สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ไม่ประสงค์เปลี่ยนสถานพยาบาลสามารถใช้สิทธิรับบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลตามสิทธิเดิมได้ กรณีผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพจากความเป็นผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิต่อไปได้อีก 6 เดือน นับแต่วันที่สิ้นสภาพ

สิทธิประกันสังคม ตรวจรักษาอะไรได้บ้าง

เช็กสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคมปี-66

สิทธิประกันสังคมที่ใช้ได้ในโรงพยาบาล ครอบคลุมการเจ็บป่วยปกติ เจ็บป่วยฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ ทันตกรรม บําบัดทดแทนไต ปลูกถ่ายไขกระดูก เปลี่ยนอวัยวะกระจกตา อวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบําบัดรักษาโรค ติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ คลอดบุตร รักษาโรคจากการทำงานหรือออฟฟิศซินโดรม และตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีรายละเอียดดังนี้

เจ็บป่วยปกติ

  • เจ็บป่วยสามารถเข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ยกเว้น 14 โรคตามประกาศของสำนักงานประกันสังคม เช่น เสริมสวย รักษาการมีบุตรยาก ผสมเทียม แว่นตา ใช้สารเสพติด เปลี่ยนเพศ หรือฆ่าตัวตาย จะไม่สามารถใช้สิทธิได้

เจ็บป่วยฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ

กรณีที่เข้าข่ายการเจ็บป่วยฉุกเฉินจะมี 6 อาการด้วยกัน ได้แก่

  1. หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ
  2. หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง
  3. ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม
  4. เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน รุนแรง
  5. แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วน หรือชักต่อเนื่องไม่หยุด
  6. มีอาการอื่นร่วมที่มีผลต่อการหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบสมองที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต

แบ่งการรักษาออกเป็น 2 กลุ่ม

  • โรงพยาบาลรัฐบาล เบิกค่ารักษาได้เท่าที่จ่ายจริงตามความจําเป็น เบิกได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ต้องไม่เกินระยะเวลา 72 ชั่วโมง ค่าห้องและค่าอาหารไม่เกิน 700 บาท/วัน
  • โรงพยาบาลเอกชน กรณีผู้ป่วยนอก เบิกค่ารักษาได้เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 1,000 บาท/ครั้ง กรณีผู้ป่วยใน ไม่เกิน 2,000 บาท/ครั้ง ค่าห้องและค่าอาหาร ไม่เกิน 700 บาท/วัน
  • โดยสามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาล สำรองจ่ายไปก่อนและนำหลักฐานไปเบิกขอเงินคืนได้

กรณีอื่น ๆ เพิ่มเติม

  • ค่าห้อง (ICU) เบิกได้เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 4,500 บาท/วัน
  • ค่าห้องผ่าตัดใหญ่ เบิกได้เท่าที่จ่ายจริง 8,000-16,00 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมงที่ได้รับการผ่าตัดกรณีฉุกเฉิ
  • เบิกได้ไม่เกิน 4 ครั้ง/ปี (ผู้ป่วยนอก 2 ครั้ง ผู้ป่วยใน 2 ครั้ง) กรณีอุบัติเหตุ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
  • ค่าทำ CT Scan เบิกได้ไม่เกิน 4,000 บาท/ครั้ง
  • ค่าทำ MRI เบิกได้ไม่เกิน 8,000 บาท/ครั้ง
  • ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือเอกซเรย์ เบิกได้ไม่เกิน 1,000 บาท/ครั้ง
  • ค่าฟื้นคืนชีพรวมค่ายาและอุปกรณ์ เบิกได้เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 4,000 บาท/ครั้ง

สิทธิทันตกรรม

  • ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และผ่าตัดฟันคุด 900 บาท/ครั้ง/ปี
  • ใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้บางส่วน ไม่เกิน 1,500 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ใส่ฟันเทียม
  • ใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปาก ไม่เกิน 4,400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี

โดยสามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาล สำรองจ่ายไปก่อนและนำหลักฐานไปเบิกขอเงินคืนได้

บําบัดทดแทนไต (โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย)

  • ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม 1,500 บาท/ครั้ง ไม่เกิน 4,500 บาท/สัปดาห์
  • เตรียมเส้นเลือดสำหรับฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมพร้อมอุปกรณ์ ไม่เกิน 20,000 บาท/2 ปี
  • ตรวจรักษาและน้ำยาล้างช่องท้องพร้อมอุปกรณ์ ไม่เกิน 20,000 บาท/เดือน
  • วางท่อรับส่งน้ำยาเข้าออกช่องท้องพร้อมอุปกรณ์ ไม่เกิน 20,000 บาท/2 ปี
  • ผ่าตัดปลูกถ่ายไต ก่อน-ระหว่าง-หลัง การปลูกถ่ายไต และรับยากดภูมิคุ้มกันตลอดชีวิต

ปลูกถ่ายไขกระดูก

  • ค่าบริการทางการแพทย์ นับแต่วันที่เริ่มต้นเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อทำการปลูกถ่ายไขกระดูก จนถึ
  • วันที่ได้รับการไขกระดูก (stem cell) เหมาจ่าย 500,000 บาท
  • ค่าบริการทางการแพทย์นับตั้งแต่วันที่ได้รับไขกระดูก (stem cell) จนถึงวันที่ออกจากโรงพยาบาล เหมาจ่าย 250,000 บาท

เปลี่ยนอวัยวะกระจกตา

  • ค่าบริการทางการแพทย์แก่โรงพยาบาล เหมาจ่าย 35,000 บาท
  • ค่าจัดเก็บและรักษาคุณภาพดวงตาแก่สภากาชาดไทย 15,000 บาท/ดวงตา

อวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบําบัดรักษาโรค

เบิกได้ตามรายการประกาศที่สำนักงานประกันสังคมกําหนด เช่น กะโหลกศีรษะเทียม กระดูกหูเทียม เท้าเทียม แขนเทียม ไม้ค้ำยัน รถนั่งคนพิการ ฯลฯ

ติดเชื้อเอชไอวี และโรคเอดส์

  • ค่าตรวจ CD4 เหมาจ่ายครั้งละ 500 บาท ปีละไม่เกิน 1,000 บาท/คน
  • ค่าตรวจ Viral Load เหมาจ่ายครั้งละ 2,500 บาท ปีละไม่เกิน 5,000 บาท/คน
  • ค่าตรวจ Drug resistance ครั้งละ 8,500 บาท/คน/ปี
  • ค่ายาต้านไวรัสเอชไอวี ในผู้ติดเชื้อทุกรายในทุกระดับ CD4 สูตรยาต้านไวรัส ให้เป็นไปตามแนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประเทศไทย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

ค่าคลอดบุตร

  • เหมาจ่าย 13,000 บาท/การคลอดบุตร 1 ครั้ง
  • ใช้สิทธิได้ 2 คน
  • รับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร เหมาจ่ายในอัตรา 50% ของเงินเดือน (ฐานเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท) เฉลี่ย 90 วัน

ค่าคลอดเหมาจ่าย 13,000 บาท จะรวมค่าใช้จ่ายตั้งแต่ฝากครรภ์ การคลอด การดูแลหลังคลอดและการบริบาลทารกปกติ สามารถเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลไหนก็ได้ แต่ต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนเดือนคลอดบุตร

รักษาโรคจากการทำงาน/ออฟฟิศซินโดรม

มีอาการป่วย เช่น อาการปวดหลัง บ่า ไหล่ ข้อมือ ปวดต้นคอ ปวดหัว หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อันมีสาเหตุมาจากการทำงานหนัก สามารถขอใช้สิทธิประกันสังคมที่ใช้ได้ในโรงพยาบาลได้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หากเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์ผู้รักษา ในกรณีที่รับการรักษาที่นอกเหนือจากคำสั่งของแพทย์ เช่น การฝังเข็ม หรือครอบแก้ว หากแพทย์วินิจฉัยว่าไม่จำเป็น ผู้ประกันตนต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่ม ตามอัตราค่ารักษาจริง

ตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19

หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือจังหวัดที่มีการควบคุมในระดับสูงสุด สามารถขอตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ฟรี โดยประกันสังคมจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายดังนี้

  • ค่าบริการทางการแพทย์ซึ่งเป็นค่าตรวจคัดกรองเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยเทคนิค Real Time PCR ประกันสังคมจะจ่ายให้ 1,600 บาท ตามระเบียบของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กระทรวงสาธารณสุข
  • ค่ารักษาพยาบาลจนเสร็จสิ้นกระบวนการจนกระทั่งรักษาหายจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
  • ค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องแล็บในอัตราที่จ่ายจริงในราคาแบบเหมาจ่ายในอัตราครั้งละไม่เกิน 600 บาท

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *